สิ่งที่สำคัญสำหรับการเดินทางต่างประเทศ นอกเหนือจาก หนังสือเดินทาง และตั๋วเครื่องบินแล้ว แน่นอนที่ขาดไม่ได้ก็คือเงิน เอ้ย! VISA
วันก่อนได้เจอเพจที่แชร์ เกี่่ยวกับ เรื่องเดินทาง 25 ประเทศไม่ต้องขอวีซ่า จะว่าไปเดี๋ยวนี้คนไทยเรานิยมไปเที่ยวต่างปรเทศกันซะเหลือเกิน เป็นเรื่องดีสำหรับคนที่นิยมไปเที่ยวต่างประเทศแล้วไม่อยากไปต่อคิวขอ VISA
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ VISA กันก่อนเลย
VISA คือ เอกสารที่แสดงว่า บุคคลนั้นได้รับอนุญาตให้เข้าสู่เขตแดนหรือพื้นที่ประเทศนั้นๆ เอกสารอนุญาตอาจอยู่ในรูปของเอกสารสำคัญ แต่โดยส่วนใหญ่ จะเป็นตราประทับอยู่ในหนังสือเดินทาง ซึ่งโดยส่วนใหญ่ จะมีเงื่อนไขต่าง ๆ ของวีซ่า แต่ละประเภทติดมาด้วย เช่น เขตพื้นที่ที่อนุญาตให้เดินทางเข้าไปได้ อายุของ Visa ช่วงเวลาที่เดินทางเข้าออกได้ แม้กระทั่งอนุญาตให้เดินทางเข้าออกประเทศได้กี่ครั้ง
อือหือ !! แลดูเยอะแยะ แต่ที่ต้องขอวีซ่าแต่ละประเทศเค้าก็มีเหตุผลของเค้านะจ๊ะ บางทีก็ป้องกันการนำโรคร้ายแรงเข้าสู่ประเทศ เนืองจากการขอวีซ่าจะต้องมีการตรวจสุขภาพก่อนด้วย
ประเภทของวีซ่าก็มีหลายประเภทซะเหลือเกิน
- Transit Visa (วีซ่าเปลี่ยนเครื่อง) ปกติจะมีอายุประมาณ 5 วัน เพื่อเป็นทางผ่านไปยังประเทศที่เป็นจุดหมาย
- Tourist Visa (วีซ่าท่องเที่ยว) เพื่อจุดประสงค์ในการท่องเที่ยวหรือสันทนาการ โดยไม่มีกิจกรรมทางธุรกิจมาเกี่ยวข้องระหว่างการเดินทาง
- Business Visa (วีซ่าธุรกิจ) เป็น Visa ที่มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการทำการค้าในประเทศนั้น ๆ หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจ ซึ่ง Visa ประเภทนี้ ในบางประเทศจะมีการรวมเอาการจ้างงานอย่างถาวรไว้ด้วย
- Teporary Worker Visa (วีซ่าทำงาน ชั่วคราว) เพื่อยืนยันการได้รับอนุญาตให้ทำงานในประเทศนั้น ๆ ได้ โดยส่วนใหญ่ Visa ชนิดนี้ ขอได้ค่อนข้างยาก และมีช่วงเวลาการได้รับอนุญาตที่ยาวกว่า Visa ธุรกิจ
- On-Arival Visa (วีซ่าที่ได้รับเมื่อเดินทางถึงสนามบินที่เป็นจุดหมายการเดินทาง) Visa ชนิดนี้ จะได้รับตรงจุดตรวจคนเข้าเมือง
- Spousal Visa หรือ Partner Visa (วีซ่าแต่งงาน) อนุญาตให้คู่แต่งงาน (เพศชายหรือหญิงก็ตาม) ที่เป็นคู่ชีวิตของประชากรของประเทศนั้น ๆ สามารถเดินทางมาอยู่ด้วยกันได้
- Student Visa (วีซ่านักเรียน) อนุญาตให้ผู้ถือ วีซ่าชนิดนี้ สามารถทำการเรียนในประเทศที่ได้รับ วีซ่านักเรียนได้ ตามเงื่อนไขที่กำหนด แต่บางประเทศก็ใช้ วีซ่าท่องเที่ยว แทน วีซ่าชนิดนี้
- Working Holiday Visa (วีซ่าท่องเที่ยวและทำงาน) เป็น วีซ่าที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงระหว่างประเทศ โดยมีสาระสำคัญคือ สามารถท่องเที่ยวและทำงานเพื่อหาประสบการณ์ภายในเงื่อนไขที่กำหนดได้ วีซ่าประเภทนี้ โดยส่วนใหญ่มักเปิดโอกาสให้กับ บุคคลในวัยเรียนและวัยทำงานที่มีอายุไม่เกินกว่า 30 ปี
- Diplomatic Visa (วีซ่าทูต) เป็นวีซ่าที่ออกให้กับผู้ที่ถือหนังสือเดินทางทางการทูต
- Jounalist Visa วีซ่าสำหรับนักเขียน หรือนักข่าวจากหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับ
- Immigration Visa เป็นวีซ่าอนุมัติให้กับผู้ที่ต้องการอพยพไปตั้งถิ่นฐาน ซึ่งกฎเกณฑ์และเงื่อนไข ขึ้นอยู่กับประเทศนั้น ๆ เป็นผู้กำหนด
- Pensioner Visa (Retirement Visa) ออกให้ในบางประเทศ สำหรับผู้ที่แสดงให้เห็นว่ามีรายได้ในต่างประเทศที่เพียงพอ และไม่มีความประสงค์ที่จะทำงานแล้ว โดยส่วนใหญ่ มักมีการจำกัดอายุด้วย
- Electronics Visa เป็นระบบวีซ่าที่ใช้การบันทึกข้อมูลในคอมพิวเตอร์ ซึ่งเชื่อมโยงกับหมายเลขหนังสือเดินทาง โดยจะไม่มีป้าย หรือ สติ๊กเกอร์ติดลงในหนังสือเดินทาง
ที่นี้มาเรื่องหลักของเราดีกว่า เรื่องเดินทางประเทศอะไรบ้างเอ้ยที่ไม่ต้องของวีซ่า ตื่นเต้นๆ เผื่อจะไปเที่ยวกะเค้าบาง
แต่ถ้าไม่ใช่ประเทศทั้ง 25 นี้ ก็ต้องขอวีซ่านะจ๊ะ และถ้าวีซ่าหมดอายุก็ต่อวีซ่านะ ไม่งั้นก็จะเสียค่าปรับตามวันที่เลยกำหนดมา
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น